เพิ่มความ sexy ให้ธุรกิจการศึกษาด้วย AR

เพิ่มความ sexy ให้ธุรกิจการศึกษาด้วย AR

        เมื่อพูดถึงการศึกษาแล้วนั้น อาจทำให้ใครหลายคนนึกถึงตัวเองวัยเด็ก ที่ต้องนั่งในห้องเรียนด้วยความง่วงนอน หรือใจลอยออกไปนอกหน้าต่าง เหมือนกับทุกวันนี้ที่พนักงานบริษัทก็ต้องเข้า Training ในสิ่งที่น่าเบื่อ และใจก็อาจจะลอยไปนึกถึงงานที่กองอบู่บนโต๊ะของตัวเองเช่นกัน

        ท่ามกลางตลาดยุคเทคโนโลยี 4.0 การศึกษาและการอบรมเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ใช้นวัตกรรมมาปรับใช้ (EdTech) ซึ่งการทำ AR หรือ Augmented Reality ก็เป็นเครื่องมือที่ร้อนแรงที่สุดในปี 2018 ที่ผ่านมา แนวโน้มที่สำคัญก็คือ จำนวนผู้ใช้งาน AR ที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 1 พันล้านคนในปี 2020 นี้ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้กับสถาบันการศึกษาและการอบรมทำ AR ของตัวเอง ที่สามารถตอบสนองวัตถุประสงค์หลายอย่าง ช่วยให้ผู้เรียนประมวลผลและจดจำข้อมูลได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้การทำ AR ยังสร้างการมีส่วนร่วมและสนุกสนานยิ่งขึ้น โดยไม่จำกัดเพียงกลุ่มอายุเดียว AR สามารถนำมาใช้ในทุกระดับการศึกษา ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนถึงมหาวิทยาลัย หรือแม้กระทั่งการ Training ในที่ทำงาน

        AR เพิ่มความ sexy ให้การศึกษายุคใหม่…อย่างไรบ้าง ?

1. สื่อการเรียนที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา : แทนที่ตำรากระดาษและสื่อการสอนแบบเดิมๆ ด้วยการทำ AR ใช้เพียงโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต ก็สามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลาแล้ว ซึ่งจะดีกว่ามั้ยถ้าการสอนวิชาประวัติศาสตร์ เราสามารถยกเมืองสุโขทัย อยุธยา หรือแม้แต่อาณาจักรโรมัน แบบ 3 มิติ มาไว้ในห้องเรียนได้เลย

2. ไม่ต้องเพิ่มอุปกรณ์พิเศษ : การทำ AR ต่างจาก VR คือ ไม่จำเป็นต้องมี Hardware ราคาแพงอย่าง VR ซึ่งปัจจุบัน 73% ของวัยรุ่นทุกคนเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนที่รองรับเทคโนโลยี AR จึงพร้อมใช้งานสำหรับกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ในทันที  

3. ผู้เรียนมีส่วนร่วมและความสนใจสูงขึ้น :  การเรียนรู้ด้วย AR แบบ Interactive มีผลกระทบเชิงบวกต่อผู้เรียน ทำให้การเรียนเป็นไปอย่างสนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ เกิดความคิดสร้างสรรค์ต่อยอดไปได้อีกด้วย

4. สร้าง Teamwork : การทำ AR นอกจากจะสามารถเขย่าชั้นเรียนที่น่าเบื่อได้แล้ว ยังทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ขณะเดียวกันก็ช่วยพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมได้ดี                                                 

5. เรียนรู้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น : AR ช่วยให้การสอนทฤษฎียากๆ กลับง่ายขึ้น ผู้เรียนจะสามารถเข้าใจได้เร็วและลึกขึ้น ด้วย Immersive และ Interaction Technology ไม่ต้องท่องตำราเป็นเล่มๆ ก็สามารถจดจำได้จากภาพที่เห็น เช่น ในการสอนวิชากายวิภาค เราสามารถเอาชิ้นส่วนอวัยวะภายใน เช่น หัวใจ สมอง เส้นเลือด มาลอยอยู่ในห้องเรียน ให้นักเรียนได้เห็นภาพแบบ 3 มิติ กันไปได้เลย

6. Professional Training ที่ใช้งานได้จริง :  ISACA ระบุว่า 70% ของลูกค้าเชื่อว่า AR ช่วยให้เขาสามารถเรียนรู้ทักษะสายอาชีพ และทักษะส่วนบุคคลได้ดีขึ้น เช่น การอบรมฝึกฝนพนักงานสายเทคนิค ด้วยการทำ AR เราสามารถชี้ตำแหน่งสำคัญต่างๆของระบบ และให้พนักงานฝึกทำ ทดลอง และสามารถใช้ในการทดสอบได้        

7. ฝึกความปลอดภัยและประสิทธิภาพในที่ทำงาน : ด้วยการทำ AR เราสามารถเทรนพนักงานในเรื่องระบบความปลอดภัยได้ดี และแสดงขั้นตอนต่างๆได้อย่างชัดเจนและเห็นภาพ เช่น การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การหนีไฟ และเหตุฉุกเฉินต่างๆ                                                  

8. ใช้สอนได้หลากหลายกลุ่ม : เราสามารถใช้ AR ในการสอนเด็กเล็กตั้งแต่วัย 1 ขวบ ไปจนถึงการฝีกอบรมในที่ทำงาน ทุกเพศ ทุกวัย ในระดับสากล                                                                                                                                                                                                

9. ความ sexy สุดท้ายคือ คุ้มค่าเม็ดเงิน : ด้วยการทำ AR ที่เราสามารถสร้าง Creative Content ได้หลากหลายและมีข้อจำกัดน้อย ทำได้เราได้ข้อ 1-8 ข้างต้นมาอย่างคุ้มค่า และยกมีประสิทธิภาพการเรียนการสอนให้สูงขึ้น

ยักษ์ใหญ่อย่าง Apple, Google หรือ Facebook ได้ผลักดันเทคโนโลยี AR มาตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา และหลากหลายธุรกิจที่นำ AR มาใช้แล้วสามารถสร้างยอดขาย หรือสร้าง Engagement ได้มากมาย ซึ่ง 1 ในนั้นก็มี EdTech หรือ Education Technology รวมอยู่ด้วย

แล้วคุณล่ะ…ถึงเวลาเพิ่มความ sexy ให้ธุรกิจการศึกษาและการอบรมของคุณรึยัง ?

สนใจทำ AR เข้ามาคุยกันเพิ่มเติมได้ที่ www.keencollective.co.th

#KeenCollective #DigitalAgency #KeenReality #รับทำAR #ทำAR #ARสำหรับการตลาด #ARMarketing